โรคผู้สูงวัย

General Knowledge

โรคผู้สูงวัย

8 โรคยอดฮิตในผู้สูงวัย: รู้ทัน ป้องกันได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกวัน

 

การก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุเป็นเรื่องธรรมชาติของชีวิตที่มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย การเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ มากขึ้น แต่การเจ็บป่วยไม่ใช่สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุทุกคนเสมอไป การมีความรู้ความเข้าใจในโรคที่พบบ่อย จะช่วยให้เราสามารถสังเกตอาการผิดปกติแต่เนิ่นๆ วางแผนป้องกัน และให้การดูแลรักษาได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้ผู้สูงอายุและคนที่คุณรักมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีความสุขในทุกช่วงวัยของชีวิต

 

บทความนี้ได้รวบรวม 8 กลุ่มโรคยอดฮิตที่มักพบในผู้สูงวัย พร้อมแนวทางการดูแลและป้องกันเบื้องต้น

  1. โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
    "ภัยเงียบ" ที่ไม่มีอาการเตือนในระยะแรก แต่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), โรคหัวใจ และโรคไตวาย

    อาการที่ต้องสังเกต: ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ แต่อาจมีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ตาพร่ามัว หรือเหนื่อยง่ายเมื่อมีภาวะความดันสูงมากๆ

    การดูแลและป้องกัน:

- ควบคุมอาหาร ลดการทานเค็มและอาหารไขมันสูง

- ออกกำลังกายเบาๆ อย่างสม่ำเสมอ

- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดและวัดความดันสม่ำเสมอ

 

  1. โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus)
    ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากความบกพร่องของฮอร์โมนอินซูลิน หากไม่ควบคุมให้ดี อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่อ ตา ไต และระบบประสาทได้

    อาการที่ต้องสังเกต: ปัสสาวะบ่อย, กระหายน้ำบ่อย, หิวบ่อย, น้ำหนักลด, ตาพร่ามัว, เป็นแผลแล้วหายช้า

    การดูแลและป้องกัน:

- ควบคุมอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล

- ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาล

- พบแพทย์ตามนัดและใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ

- ใส่ใจดูแลสุขภาพเท้าเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดแผล

 

  1. โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
    เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนที่ฉาบผิวข้อต่อ ทำให้เกิดอาการปวดข้อ ข้อฝืด และเคลื่อนไหวลำบาก มักพบบ่อยที่ข้อเข่า ข้อสะโพก และกระดูกสันหลัง

    อาการที่ต้องสังเกต: ปวดข้อเมื่อมีการเคลื่อนไหว, มีเสียงดังกรอบแกรบในข้อ, ข้อติดขัดในตอนเช้าหรือหลังไม่ได้เคลื่อนไหวนานๆ

    การดูแลและป้องกัน:

- ควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อลดแรงกระทำต่อข้อ

- หลีกเลี่ยงท่าทางที่ต้องงอเข่ามากๆ เช่น การนั่งพับเพียบ นั่งยองๆ

- บริหารกล้ามเนื้อรอบข้อให้แข็งแรง เช่น การปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ

 

  1. โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis)
    ภาวะที่ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง ทำให้กระดูกเปราะบางและหักง่าย แม้ได้รับอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ตำแหน่งที่หักบ่อยคือ กระดูกข้อมือ กระดูกสะโพก และกระดูกสันหลัง

    อาการที่ต้องสังเกต: มักไม่มีอาการจนกว่าจะเกิดกระดูกหัก อาจสังเกตได้จากส่วนสูงที่ลดลง หรือหลังค่อมมากขึ้น

    การดูแลและป้องกัน:

- รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง เช่น นม, ปลาตัวเล็ก, เต้าหู้

- ออกกำลังกายแบบลงน้ำหนัก เช่น การเดิน

- ระมัดระวังการลื่นล้มในบ้าน

 

  1. ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) และโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease)
    กลุ่มอาการที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์สมอง ทำให้ความสามารถในการคิด ความจำ และการตัดสินใจลดลง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

    อาการที่ต้องสังเกต: หลงลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น, สับสนเรื่องเวลาและสถานที่, มีปัญหาในการสื่อสาร, อารมณ์และบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงไป

    การดูแลและป้องกัน:

- ฝึกสมองอยู่เสมอ เช่น อ่านหนังสือ, เล่นเกม, พบปะพูดคุยกับผู้คน

- รับประทานอาหารบำรุงสมอง เช่น ปลา, ผักใบเขียว

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง

 

  1. โรคตาในผู้สูงอายุ (ต้อกระจก/ต้อหิน)
    ต้อกระจก (Cataract): ภาวะที่เลนส์แก้วตาขุ่นมัว ทำให้มองเห็นภาพมัวเหมือนมีหมอกบัง รักษาได้ด้วยการผ่าตัด
    ต้อหิน (Glaucoma): เกิดจากความดันในลูกตาสูงจนทำลายขั้วประสาทตา ทำให้สูญเสียลานสายตา หากไม่รักษาอาจตาบอดได้

    การดูแลและป้องกัน:

- สวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันรังสียูวี

- ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป

 

  1. โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
    ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลัน ทำให้เซลล์สมองตาย เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

    อาการที่ต้องสังเกต (หลักการ B-E-F-A-S-T):

- Balance: เดินเซ, ทรงตัวลำบาก

- Eyes: ตาพร่า, เห็นภาพซ้อน

- Face: ใบหน้าเบี้ยว, ปากตก

- Arm: แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก

- Speech: พูดไม่ชัด, พูดไม่ออก

- Time: รีบโทร 1669 ทันที


การป้องกัน: คือการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทั้งหมด (ความดัน, เบาหวาน, ไขมัน)

 

  1. ภาวะซึมเศร้า (Depression)
    ไม่ใช่แค่อารมณ์เศร้า แต่เป็นความผิดปกติของสารเคมีในสมอง มักถูกมองข้ามในผู้สูงอายุ ซึ่งอาจเกิดจากการสูญเสีย, ความเจ็บป่วยเรื้อรัง หรือการอยู่คนเดียว

    อาการที่ต้องสังเกต: เบื่อหน่าย, ไม่สนใจสิ่งที่เคยชอบ, นอนไม่หลับหรือนอนมากไป, รู้สึกตัวเองไร้ค่า, อยากอยู่คนเดียว

    การดูแลและป้องกัน:

- ครอบครัวและคนใกล้ชิดต้องให้เวลา รับฟังด้วยความเข้าใจ

- สนับสนุนให้ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือพบปะเพื่อนฝูง

- หากมีอาการมากควรปรึกษาจิตแพทย์

 

บทสรุป:

การสูงวัยอย่างมีคุณภาพเริ่มต้นจากการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องและต่อเนื่อง การหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย, การตรวจสุขภาพประจำปี, การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์, การออกกำลังกายที่เหมาะสม และการมีสุขภาพจิตที่ดี ล้วนเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่ช่วยให้ผู้สูงอายุห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยความรักและความใส่ใจ เราสามารถช่วยให้ผู้สูงอายุที่เรารักมีช่วงเวลาที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและรอยยิ้มได้ในทุกๆ วัน